ชี้แจง คุณค่าของการละหมาดตะฮัจญุด

อัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ วาบารอกาตุฮ พี่น้องครับ

ในส่วนที่มีการฟอเวิดเรื่อง คุณค่าของการละหมาดตะฮัจญุดข้างต้นนี้ มีส่วนคล้ายคลึงอย่างยิ่ง กับสิ่งที่พี่น้องเรา บางกลุ่ม มักจะนำเสนอเรื่อง ผลบุญของการละหมาดตะรอเวี้ยะ ในทุกๆคืน ตลอด ยี่สิบเก้าคืน หรือสามสิบคืนในเดือนรอมฎอนนี้ ว่าจะได้อย่างนั้น อย่างนี้ โดยหาซึ่งหลักฐานจากอัลกุรอานหรือหะดิษมารับรองว่าเป็นเรื่องที่จะได้จริงอย่างนั้นไม่

ดั่งที่กระผมเองได้นำเสนอไปแล้วเรื่องตะรอเวียะฮฺที่คลาดเคลื่อน http://shabab000.spaces.live.com/blog/cns!BCCB96A5E7FA2C15!669.entry

แต่กระนั้นก็ตาม การเชิญชวนผู้คน เพื่อให้หันมาสนใจการละหมาดตะรอเวี้ยะหรือตะฮัจญุด โดยการใช้วิธี การเอาผลบุญมาล่อ มานำเสนอ โดยขาดซึ่งหลักฐานตัวบท จากอัลกุรอาน หะดิษว่าจะได้จริงดั่งที่นำเสนอนั้น ก็ยังคงมีต่อเนื่อง โดยอาศัยการนึกคิด ทึกทักจินตนาการถึงการได้มา เอาเอง จะด้วยเหตุที่คนนำเสนอได้แนวคิดจากกลุ่มบางกลุ่ม หรือจากวิธีการสอนของกลุ่มบางกลุ่ม ที่มักจะอาศัยการเรียนรู้จากนักซูฟีย์คนนั้นกล่าวว่า คนนี้กล่าวว่า หรือบางครั้งก็มาจากเรื่องนิยายปรัมปราก็ตาม หรือจะด้วยเหตุผลอื่นแล้วก็ตาม วัลลอฮฮุอะลัม

การนำเสนอที่อ้างว่า ทำอย่างนั้น อัลลอฮจะให้ หรือทำอย่างนั้นเพราะท่านรอซูลลุลลอฮกล่าวไว้ ทั้งๆที่ความเป็นจริง ท่านรอซูลลุลอฮไม่ได้กล่าวเลยว่า สิ่งๆนั้นจะมีผลบุญตามหลักการศาสนา สิ่งๆนั้น คือหลักการศาสนา นั่นเป็นการกล่าวเท็จต่ออัลลอฮแล้ว นั่นเป็นการโกหกใส่ ท่านรอซูลุลลอฮแล้ว

ท่านรอซูลุลลอฮ กล่าวไว้ว่า *" **من كذب علي متعمدا فليتبوأ مقعده من النار  "  * ความว่า " บุคคลใดที่โกหกใส่ฉัน(หมายถึงอ้างว่าเป็นคำพุดของท่านนบีมูฮัมหัดทั้งๆที่ไม่ใช่)เช่นนั้น เขาผู้นั้นจงเตรียมที่นั่งของเขาไว้ในไฟนรกเถิด " (บันทึกโดย บุคอรีย์)  หะดิษบทนี้เป็นหะดีษ มุตะวาติรเนื่องจากถูกรายงานต่อๆกันที่สืบสายถึงท่านนบีได้ถึง 40 สายรายงาน

ฉะนั้นแล้ว เราคงจะใส่ใจและตระหนักกันมากกว่านี้ หากจะคิด หรือทึกทักว่า สิ่งนั้น สิ่งนี้ คือหลักการ สิ่งนั้นสิ่งนี้ คือเรื่องของศาสนาและจะได้ผลบุญ

มาถึง การกล่าวอ้าง บางข้อ ที่ยังคงคลาดเคลื่อนในเรื่องของคุณค่าของการละหมาดตะฮัจญุด ที่ถูกนำเสนอ

จากที่มีการฟอเวิดและโพสไปตามเว็ปต่างๆ

1. อัลลอฮ์ (ซ.บ)  จะให้ ลิ้นของเรามี ฮิกมะห์ พูดอะไร เข้าใจง่ายและอยากฟัง
2. ละหมาด ตะฮัจยุด 2 รอกากอัต ดีกว่าโลก และ ทรัพสิน ที่มีอยู่
3. มีแสงสว่างในกุโบร์
4. เห็น สวรรค์ ก่อนตาย
5. ทำให้ ร่างกายแข็งแรงลบล้างความชั่ว
6. คนที่ละหมาดตะฮัจยุด เป็น อิสติกอมะห์  อัลลอ์ จะยกเกียรติ สูงสุดให้แก่เค้า
7. ปลอดภัยจากโรคร้าย และ บาลอ ต่างๆ
8. เป็นเวลาที่ใกล้ ชิดอัลลอฮ์ มากที่สุด เพระ ดุอาจะถูกตอบรับ
9. ก่อนนอน  หากเราเหนียต ละหมาด ตะฮัจยุด แต่ไม่ตื่น เค้าก็ จะได้ ผลบุญนั้น เช่นกัน
10. เป็น อาม้าลของคนซอและห์
11. เป็น หัวใจของละหมาด สุนัตทั้งหมด
12. ขอดุอา เพื่อ ฮิดายัต ทั่ว โลก
13. ผุ้ปลุกคนให้ละหมาด ตะฮัจยุด เขาจะได้ ผลบุญ เท่ากับ ซิเกร ทั้งคืน  
   มาชาอัลลอฮ์ เป็น อย่างที่ นบี บอกจริงๆว่า  ความดี นั้น มีมากมาย แต่ อัสตักฟิรุ้ลลออ์ คน ทำมันน้อยเหลือเกิน
   ท่านฮาฟิซ อิบนิ มาญัร ได้ กล่าวไว้ในหนังสือของท่าน ชื่อว่า  มุนับบิฮัตว่า  มีเช่นเดียวที่จะ ขจัดมัน คือ
1. ความรักต่อโลก เป็น ความมืด  แสงสว่างของมันคือการ ตักวา
2. การกระทำบาปเป็น ความมืด  แสงสว่าง ของมันคือ การสารภาพผิด
3. ชีวิตในหลุมศพ คือ ความมืด  แสงสว่างของมัน คือ ลาอี้ลาฮาอิ้ลลั้ลลอฮ์
4. ชีวิตในวันโลกหน้าคือความมืด  แสงสว่างของมันคือ การประกอบคุณงามความดี
5. สะพาน ซีร็อตคือ ความมืด  แสงสว่างของมัน คือ  การศรัทธา อย่างมั่นคงความมืดอยู่ 5 ชนิด 
   เก็บไปคิดแล้ว ปฏิบัติ แล้ว บอกต่อๆกันไปด้วยะนะคะ  ว่าสิ่งที่ เอามาบอกนี้ จริง ไหม แล้ว มัน มีประโยชน์ต่อจิตใจการกระทำแล้ว การดำเนินชีวิตเราอย่างไร  ไม่มีคำว่าสาย สำหรับ การทำความดี  ศาสนาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน  แต่เราสามารถปฏิบัติ ได้ เพียงแค่เรา ตักวาต่ออั้ลลอฮ์ ซอบัร   อดทนมากๆ   ให้ คิดตลอดเวลาว่าเราต้องกลับไปหาอัลลอฮ์

ช่วยส่งต่อไปด้วยอย่างน้อย 20 คนขึ้นไป

---------------------------------------------------------

 โปรดสังเกต

ข้อ ที่ 2 ที่ว่าการละหมาด ตะฮัจยุด 2 รอกาอัต ดีกว่าโลก และ ทรัพสิน ที่มีอยู่

ด้วยความเคารพครับ จากท่านรสูลศ้อลลัลลอฮุอะล้ยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า"2 ร๊อกาอะฮฺของเวลาฟัจญรฺ  (สุนนะหฺก่อนละหมาดซุบฮี) ดียิ่งกว่าโลกดุนยาและสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้"(บันทึกโดยมุสลิม อัตติรมีซีย์และอันนาซาอีย์)

ไฉนเลย มีการกล่าวว่าการละหมาด ตะฮัจญุด ดีกว่าโลก และ ทรัพสิน ที่มีอยู่ ครับ

---------------------------------

ข้อที่ 4 เห็น สวรรค์ ก่อนตาย

จากอิบนุ อุมัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา ได้กล่าวว่า ท่านรอซูลลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า

  «إِنَّ أَحَدَكُمْ إِذَا مَاتَ عُرِضَ عَلَيْهِ مَقْعَدُهُ بِالْغَدَاةِ وَالْعَشِيِّ، إِنْ كَانَ مِنْ أَهْلِ الْجَنَّةِ فَمِنْ أَهْلِ الْجَنَّةِ، وَإِنْ كَانَ مِنْ أَهْلِ النَّارِ فَمِنْ أَهْلِ النَّارِ، يُقَالُ : هَذَا مَقْعَدُكَ حَتَّى يَبْعَثَكَ اللَّهُ إِلَيْهِ يَوْمَ الْقِيَامَةِ»

ความว่า “แท้จริงผู้ใดผู้หนึ่งในหมู่พวกท่านเมื่อได้เสียชีวิตลงแล้ว จะถูกเสนอให้เขาเห็นสถานที่อยู่ของเขาทั้งในตอนเช้าและตอนเย็น ถ้าเขาเป็นพวกที่เป็นชาวสวรรค์ เขาก็จะถูกจัดให้เป็นชาวสวรรค์ ถ้าเขาเป็นพวกชาวนรก เขาก็จะถูกจัดให้เป็นพวกชาวนรก แล้วจะมีการกล่าวแก่เขาว่า นี่คือที่พำนักสำหรับเจ้า จนกว่าจะถึงให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งในวันกิยามะฮฺ” (รายงานโดยอัล-บุคอรีย์ : 1379, มุสลิม : 2866 สำนวนรายงานนี้เป็นของท่าน)

คำถาม หลักฐาน ว่าจะได้เห็นสวรรค์ก่อนตาย ของผู้ที่ละหมาดตะฮัจญุด มีเช่นไร ????????????

----------------------------------

ข้อ13. ผุ้ปลุกคนให้ละหมาด ตะฮัจยุด เขาจะได้ ผลบุญ เท่ากับ ซิเกร ทั้งคืน

คำถาม หลักฐาน ผู้ปลุกคนให้ละหมาด ตะฮัจญุดว่าจะได้ผลบุญเท่ากับซิเกรทั้งคืน มีเช่นไร ????????????

----------------------------------

ท้ายนี้ ผู้เขียนเองนี้  ไม่ได้ต้องการนำเสนอเพื่อต้องการที่จะหักล้างใคร กลุ่มใด หรือเพื่อหยุดรั้งถึงการนำเสนอในสิ่งที่เป็นความดี หรือสิ่งที่เป็นการเชิญชวนไปสู่ความดีของบุคคลใด บุคคลหนึ่งแต่อย่างใดไม่ (วัลลอฮฮุอะลัม)

แต่ด้วยอามานะห์ของคนรู้น้อยคนนึง คนนี้ที่ (รู้ไม่ได้มาก) อยากให้พี่น้องรับรู้และตั้งข้อสังเกตกันสักนิดว่า สิ่งที่ถูกนำเสนอมายังพี่น้องอยู่ในทุกวันนี้นั้น เราจะเรียกว่า นั่นคือหลักการศาสนาได้หรือไม่ นั่นคือสิ่งที่อัลลอฮซุบฮานาฮุวา ตะอาลา หรือท่านรอซูลุลลอฮ สั่งใช้ แล้วจะได้ผลบุญด้วยหรือเปล่า

เพราะเรื่องของศาสนาที่จะได้ผลบุญ ไม่ใช่สาว่ามันจะดีแล้วจะได้ ไม่ใช่สาว่ามันจะคิดแล้วจะได้ แต่ต้องมีหลักฐานจากอัลกุรอานและหะดิษ มารับรองและระบุไว้อย่างชัดเจนครับ

ท่านรสูลุลอฮฺกล่าวไว้ว่า “ من عمل عملا  ليس عليه أمرنا فهو رد   ” ความว่า “บุคคลใดที่ปฏิบัติการงานหนึ่ง ซึ่งการงานนั้นไม่มีในกิจการงานของเรา สิ่งนั้นถือว่าถูกโต้กลับ (หมายถึงเป็นโมฆะ) นั่นเอง” (บันทึกโดยมุสลิม ลำดับหะดีษที่ 1718)

          ฮะดิษนี้รวมถึงการปฏิบัติสิ่งใหม่ในด้านการปฏิบัติ และด้านคำพูด ผู้ใดที่ทำหรือพูดสิ่งใดให้เป็นวาญิบ โดยไม่มีหลักฐาน ทำหรือพูดสิ่งใดให้เป็นซุนนะฮ์ โดยไม่มีหลักฐาน และทำหรือพูดสิ่งใดให้เป็นมักรูฮ์ โดยไม่มีหลักฐาน เขาผู้นั้นคือผู้ประดิษฐ์สิ่งใหม่ที่ไม่ใช่เรื่องศาสนา ซึ่งทุกๆการประดิษฐ์สิ่งใหม่ขึ้นมาในศาสนาถือว่าเป็นโมฆะ

วัลลอฮฮุอะลัม

วัสลามุอาลัยกุม วาเราะมาตุลลอฮ วาบารอกาตุฮ

คลิกอ่านเพิ่มเติมครับ

ความสำคัญของหลักฐาน

http://www.islammore.com/main/content.php?page=sub&category=4&id=1717

โปรดติเตือน และแนะนำ หากสิ่งที่ผมนำเสนอ เกิดจากความรู้ไม่ถึงของตัวเองครับ